สาวร้อง พนง.แบงก์ให้ “เซ็นกู้หนี้ 4.3 ล้าน” ที่ร้านกาแฟ แต่ “เงินหาย ค่าใช้จ่ายงอก” ! #ถกไม่เถียง

168,750
0
Published 2024-05-04
สุดงง ? เจ้าของโรงงานขอสินเชื่อกู้เงิน 3 ล้านบาท แต่ได้วงเงินเพิ่มเป็น 5 ล้านบาท แถมได้ประกันชีวิตเกินวงเงินโดยไม่ยินยอม นอกจากนี้ยังพบพิรุธอีกเพียบ ด้านสถาบันการเงินคู่กรณีปฏิเสธความผิดและฟ้องดำเนินคดีกลับ

วันที่ 4 พ.ค. 67 คุณกนกวรรณ มณฑิราช (โอปอ) เจ้าของโรงงานแห่งหนึ่ง และคุณชอย ยัง อุค สามีของเจ้าของโรงงาน ออกมาเล่าเรื่องราวผ่านรายการ "ถกไม่เถียง" ทางช่อง 7HD กด 35 ดำเนินรายการโดย กาย สวิตต์ ลีละพงศ์วัฒนา ว่า ตนขอสินเชื่อกับสถาบันการเงินแห่งหนึ่งที่ตนไม่รู้จักชื่อ แต่ธนาคารที่คอยให้คำปรึกษาตนแนะนำให้ว่าเชื่อถือได้ ตนสามารถกู้ได้ 4.5 ล้านบาท โดยเป็นเงินกู้ 3 ล้านบาท และเงินค้ำประกัน 1.5 ล้านบาท

ตอนแรกจะทำสัญญากู้ที่สำนักงานใหญ่ แต่อีกฝ่ายเปลี่ยนให้ไปทำสัญญาที่ร้านกาแฟแทน โดยอ้างว่าสำนักงานแคบและติดภารกิจอื่น จึงให้ตัวแทนมาทำสัญญาแทน จากนั้นพบความผิดปกติเพียบ ทั้งวงเงินที่เพิ่มขึ้นมาถึง 5 ล้านบาท แต่ได้เงินมา 4.3 ล้านบาท ที่เหลือกว่า 7 แสนบาทเป็นค่าคุ้มครองวงเงินกู้และค่าธรรมเนียม

แต่มารู้ภายหลังว่า เงินส่วนต่างที่หายไปพนักงานได้นำไปทำประกันชีวิตให้ตน โดยมารู้ภายหลังกว่า 1 ปี เนื่องจากมีคนติดต่อมาว่าต้องการต่อการประกันชีวิตหรือไม่ ยืนยันว่าวันที่ทำสัญญากู้เงินไม่มีการเซ็นกรมธรรม์ประกันชีวิต จากนั้นผ่านไปสองเดือนมีเจ้าหน้าที่ติดต่อมาทวงค่า บสย. (บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม) อีกกว่า 90,500 บาท ตัดสินใจโอนให้เนื่องจากสถาบันการเงินแห่งนี้มีความน่าเชื่อถือ ผ่านไปอีก 1 ปี ธนาคารติดต่อมาว่าตนขาดจ่ายค่า บสย. 30,000 บาท ในปีที่สองทั้งที่ตนจ่ายไปแล้ว จึงแย้งกลับไปว่าตนจ่ายไปแล้วกว่า 90,000 บาท

ตนตรวจสอบแล้วพบว่าเจ้าหน้าที่คนดังกล่าวมีตำแหน่งเป็นผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ และพบว่าสถาบันการเงินดังกล่าวรู้ข้อมูลทั้งหมดแต่เพิกเฉย ตนให้เวลามากว่า 6 เดือนแล้ว แต่ยังไม่ได้รับการดำเนินการอะไรติดต่อไม่ได้ ทั้งยังพบว่าอีกฝ่ายมีพฤติกรรมแบบนี้มานานแล้ว ตนเชื่อว่ามีการทำเป็นขบวนการเพื่อหลอกลวงลูกค้า จึงตัดสินใจมาร้องกับรายการถกไม่เถียง

ทนายสงกาญ์ อัจฉริยะทรัพย์ กรรมการปฏิรูปประเทศด้านกระบวนการยุติธรรม ให้ความเห็นด้านกฎหมายว่า การทำประกันชีวิตผู้ที่ทำสัญญาจะต้องรับรู้ถึงเงื่อนไขก่อนเซ็นสัญญา แต่จากกรณีของคุณโอปอดูเหมือนว่าถูกนำชื่อไปทำประกันโดยไม่ยินยอม และการที่สถาบันการเงินรู้ข้อมูลความผิดปกติของลูกค้า แต่กลับเพิกเฉยอาจมีความผิดข้อหาฉ้อโกง พร้อมแนะนำให้คุณโอปอไปแจ้งความเอาผิดให้เป็นคดีตัวอย่าง

สถาบันการเงินดังกล่าว ชี้แจงว่าเจ้าหน้าที่ของธนาคารได้ทำตามขั้นตอนที่ถูกต้องทุกประการ สิ่งนี้อาจเป็นความเข้าใจผิดของคุณโอปอ นอกจากนี้ยังจะฟ้องดำเนินคดีกับคุณโอปอ ด้านคุณโอปอยืนยันขอต่อสู้เรียกร้องความยุติธรรมจนถึงที่สุด

#ถกไม่เถียง #TERODigital #Ch7HDNews

----------

ติดตาม รายการ “ถกไม่เถียง” ดำเนินรายการโดย “ทิน โชคกมลกิจ” ทุกวันจันทร์ - ศุกร์ เวลา 17.30-18.00 น. และทุกวันเสาร์ -วันอาทิตย์ พบกับ รายการ “ถกไม่เถียง Weekend” เวลา 17.30-18.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35

Facebook: www.facebook.com/TERODigital/
Twitter: twitter.com/TERO_Digital
YouTube: youtube.com/c/TERODIGITAL
TikTok: www.tiktok.com/@terodigital
Instagram: www.instagram.com/terodigital

All Comments (21)
  • @user-ki5cp5tn5i
    ผู้ร้อง มีความรู้พอสมควร แต่ก็ยังเป็นเหยื่อของกระบวนการของสถาบันการเงิน ต้องขอบคุณที่มาออกรายการครับ จะได้เป็นบทเรียนกับอีกหลายคนที่ศึกษาอยู่ เพระาการกู้เงินหรือทำอะไรเกี่ยวกับการเงิน มันมีวิธีซิกแซกหลายอย่าง ทั้งจากพนักงาน จากกฏของสถาบันการเงินเอง เพราะแต่ละคนมันมีโปรแจ็คงานของสถาบันของเขานั่นแหล่ะ คนที่ทำงานด้านนี้มาจะรู้ดี ว่ามันมีกฏและโปรแจ็คงานมากกมาย เพื่อให้ได้ลูกค้ามา หากผู้กู้ไม่วางแผนหรือไม่ศึกษาหรือยอมรับสภาพ เพียงเพราะอยากได้เงินหรือต้องการกู้ผ่าน ก็ยอม มันจะเป็นผลเสียและดีแต่ทั้งสองฝ่าย แต่จะมากจะน้อยแล้วแต่คนจะโดน
  • @user-in8gs1vv3c
    คุณกนกวรรณ,พูดจาชัดเจน,,ออกมาแฉได้สุดยอดมากค่ะ,ทำเป็นเคสตัวอย่างไปเลยค่ะ,ช่วยคนที่เค้าโดนกัน
  • @TheMaxlogic
    ถ้าธนาคารมั่นใจว่าทำถูกต้อง ก็ออกแถลงการณ์โต้เลยครับ บอกไปเลยว่า ธนาคารเรา มีนโยบายเน้นให้เซ็นสัญญาที่ร้านกาแฟ
  • ขนาดพี่ผู้หญิง ดูมีความรู้มาก ยังโดนหลอกเลย
  • @Kat-cw6yd
    ขอบคุณคุณกนกวรรณและสามีที่สละเวลาเพื่อตีแผ่ข้อเท็จจริงในมุมของคุณให้สังคมได้รับทราบ และป้องกันตัวเองได้ค่ะขอให้คุณและสามีได้รับความเป็นธรรมนะคะ 🙏
  • @user-rv9vg9hv6o
    ขอเป็นกำลังใจให้คุณกนกวรรณนะครับ ส่วนตัวเคยเจอแบบนี้เหมือนกัน ตอนนั้นขอกู้เงินแค่ 6 แสนบาท แต่ได้รับเงินจริงๆ 540,000.- โดนค่าประกันชีวิตไป 6 หมื่นบาท ตกใจ อยากได้คำชี้แจง แต่พนักงานธนาคารเดินหนีจากหน้าเคาเตอร์ ไม่ยอมพูดด้วย แต่ตอนนั้นมีความจำเป็นต้องใช้เงินจริงๆ เลยต้องกลืนความเจ็บใจ และสาปส่งธนาคารนั้น มีเงินรีบนำไปชำระหนี้ปิดบัญชีทันที แล้วไม่ใช้บริการอีกเลย
  • @blissm.7877
    9:30 เซลส์ประกันแบ่งค่าคอมให้ จนท.ธนาคาร ให้นำเรื่องนี้ไปร้องเรียนที่ คปภ.ครับ เพราะประกันหนี้สินเบี้ยจะถูกกว่าประกันชีวิตหลายเท่าและจ่ายเบี้ยครั้งเดียวคือตอนกู้เงินเจ้าหนี้เป็นผู้รับผลประโยชน์เท่านั้น แต่ถ้าเป็นประกันชีวิตต้องจ่ายเบี้ยทุกปี ๆ ขั้นต่ำ 5 ปี ผู้รับผลประโยชน์ต้องเป็นคนในครอบครัวเท่านั้น เจ้าหนี้ไม่มีสิทธิ์ ธ.มีเจตนาหลอกผู้กู้ตั้งแต่แรกครับ 22:15 ร้องเรียนธนาคารได้ที่ ศคง.กรณีไม่ได้รับความเป็นธรรมจากผู้ให้บริการทางการเงิน(แบงค์ชาติเป็นเจ้าภาพ)
  • @wharnclassic653
    ธ.เข้าข้างคนในองค์กร..เป็นกำลังใจให้พี่กนกวรรณค่ะ
  • @user-oo1ss8br3w
    นี่ขนาดคนที่มีความรู้เกี่ยวกับเรื่องแบบนี้ดียังโดน แล้วตาสีตาสาคงหมดตัว
  • @user-lt1ol8ir1k
    การกู้ธนาคาร นี่คือการมัดมือชก เป็นเกือบทุกธนาคารเลย ถ้าเราไม่ทำ ไม่เอาประกัน การกู้ก็ไม่เกิดขึ้น นี่คือการจงใจโกงชัดๆ
  • @karomyen
    ฟ้องร้อง แล้วจัดให้หนักเลยครับ แบบนี้
  • @user-pv7tm7mv5g
    ทุกวันนี้หากินมาทุกรูปแบบดีแล้วค่ะคุณพี่ออกมาพูด ท่านอื่นๆจะได้รัดกุมมากขึ้นค่ะ
  • @user-uh2dq2xc9c
    แก้ที่ต้นเหตุ ห้ามพนักงานธนาคารทุกคนขายประกันให้ลูกค้า แต่ทุกวันนี้บังคับลูกค้าทำประกัน
  • @user-vu8qd8bx8h
    พวกสินเชื่อเหลี่ยมเยอะ แค่ดำเนินการปกติก็ได้ค่าคอมเยอะอยู่ ฟังแล้วเครียดแทนเลย มันเป็นมิตร(มิจฉาชีพ)ในคราบพนักงานจริงๆ เอาเสียให้รู้กันว่ามันไม่ควรทำแบบนี้เลย
  • ขายประกันแบบไม่เต็มใจ ร้องคปภ.ถอนใบอนุญาตได้
  • โดนเหมือนกันค่ะ หัก บสย แต่ไม่ได้รับใบเสร็จจาก บสย ทวงถามธนาคารออกใบเสร็จให้เราเองเฉยเลยได้ด้วยเหรอเราทราบเพราะคัดสเตรทเม้นมาเช็คโดนตัดเงินอะไรจะขึ้นลายละเอียดหมด
  • ถ้าทำจริงๆไม่ซื่อสัตย์กับอาชีพตัวเอง ควรโดนแบบร้ายเเรงเลยแบบนี้
  • @connors390
    คดีตัวอย่าง.จัดหนัก
  • @realmephone1452
    จัดหนักๆไปเลย ธนาคารก็เอ่ยชื่อไม่ได้ จะมีเหยื่ออีกกี่คนละทีนี้
  • @y31vivo16
    แทบทุกธนาคารที่ให้ลูกค้าทำประกันชีวิต แต่ถ้าลูกค้าไม่เต็มใจทำก็สามารถยกเลิกได้ พนักงานบางคนทำให้ลูกค้าเกินความจำเป็นเพราะพนักงานเห็นแก่ได้